เราแทบจะไม่เห็น เส้นแบ่งระหว่าง คนทีมีความรู้เยอะ กับ คนที่มีความรู้น้อย นั่นก็คือ ยังไม่รู้ในสิ่งที่ไม่รู้
massage from god

ไม่มีกลางคืน สำหรับผู้ที่มีพระอาทิตย์อยู่ในใจ
วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2558
Light workers ผู้ทำงานแห่งแสงสว่าง
กาล
ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว......มีเพื่อนกลุ่มนึงที่สนิทกันมากอาศัยอยู่ในดินแดน
ที่ไกลแสนไกลก่อนที่มนุษย์บนโลกจะมีภาษาและให้คำนิยามกับสถานที่ที่พวกเขา
อยู่ว่า “จักรวาล” พวกเขามักจะท่องเที่ยวผจญภัยไปด้วยกันเสมอในแต่ละดวงดาว
หรือ มิติต่างๆไม่ว่าจะเป็นที่ๆมีแต่แสงสว่างหรือมืดมิดน่ากลัว
ไปจนถึงดินแดนที่เต็มไปด้วยความฝันและสีสันสวยงาม
แต่เนื่องจากว่าความที่พวกเขาอยู่มานานในสภาวะจิตวิญญาณที่ไม่มีความตายเป็น
จุดจบ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ในมิติที่พวกเขาอยู่
ไม่มีกาลเวลาเป็นตัวกำหนดวงจรชีวิต หรือ พระผู้เป็นเจ้า และ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆช่วยพวกเขาวางแผนโชคชะตาชีวิต สำหรับพวกเขาแล้ว
ทั้งดีและชั่ว คือ สิ่งเดียวกัน
พวกเขารู้แค่ว่ามีแต่พวกเขาเท่านั้นที่เป็นผู้เลือกเส้นทางชีวิตให้กับตนเอง
ได้เพียงผู้เดียว
อยู่มาวันนึงพวกเขาได้เลือกที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตในการผจญภัยครั้งใหม่
ด้วยการแยกจากกันไปสู่ดินแดนที่มีขอบเขตกฎข้อบังคับ มีกายภาพ หรือ
ร่างกายที่ไม่สามารถทำทุกอย่างได้
มีสิ่งที่ต้องเรียนรู้ทั้งทางโลกและจิตวิญญาณในหลายศาสตร์ และ
มีเวลาเป็นตัวกำหนดโชคชะตาในแต่ล่ะวัน
แต่ก่อนที่จะเริ่มต้นการเดินทางในแต่ละครั้งพวกเขาจะเตรียมกำหนดการทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นความคิด อารมณ์ ความรู้สึกและ
เหตุการณ์ต่างๆบอกใบ้เส้นทางเพื่อที่พวกเขาจะได้กลับไปสู่สถานที่ที่พวกเขา
ได้จากมาอย่างถูกต้องและในที่สุดวันนี้ก็มาถึง
วันที่เราได้กลับมาเจอกันตามกำหนดการที่คุณเป็นผู้วางแผนเอาไว้ก่อนที่จิต
วิญญาณของคุณจะเดินทางมาอาศัยอยู่บนโลกใบนี้ในสภาวะตัวคุณ ณ ปัจจุบัน
ใช่ค่ะ เราเคยรู้จักกันมาก่อน
วันนี้เป็นวันที่พิเศษกว่าทุกๆวันและมันก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่คุณอยู่ที่
นี้เวลานี้ และที่สำคัญคุณไม่ได้เป็นผู้เลือกที่จะเปิดอ่านข้อความนี้
ข้อความนี้ต่างหากที่เป็นผู้เลือกคุณให้ได้อ่าน
เพราะมันถึงช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตที่ตัวคุณนั้นจะได้รู้จักกับตัวตน
ที่แท้จริงของตนเองว่าคุณ คือ ใคร ? คุณเกิดมาบนโลกใบนี้ทำไม?
เพื่อจุดประสงค์อะไร? และคุณจะต้องทำอะไรต่อไป ?
ขอให้คุณรู้ไว้ว่าในอีกไม่ช้าความสงสัยต่างๆที่คุณเคยมี
ตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันกำลังจะถูกเฉลยแต่ถ้าคุณยังไม่พร้อมและยังอยากที่
จะมีชีวิตเหมือนเดิมโดยใช้ชีวิตแบบท้าทาย เสี่ยงอันตราย
ไม่อยากที่จะโกงโชคชะตาและปรารถนาที่จะเรียนรู้ชีวิตมนุษย์ด้วยตัวเองแล้วละก็ ขอให้คุณหยุดอ่านเเล้วปิดหน้านี้ลง
จงอย่าได้อ่านต่อไปเพราะถ้าคุณได้อ่านจนจบ
วิถีการคิดของคุณในปัจจุบันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิงและคุณจะไม่
สามารถเป็นคุณคนเดิมและกลับไปมองโลกเหมือนอย่างที่ผ่านมาได้อีกต่อไป
เพราะสิ่งต่างๆที่คุณเคยคิดเคยมองเห็นจะถูกแทนที่ด้วยบางสิ่งบางอย่างที่แอบ
ซ่อนอยู่ภายในตัวคุณมาเป็นเวลาแสนนานและก็นานเกินกว่าที่คุณจะจำมันได้
มันถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องทำความรู้จักตัวตนที่แท้จริงของคุณซึ่งเป็นจิต
วิญญาณภายในที่รู้ทุกอย่างตั้งแต่ อดีต ปัจจุบัน ไปจนถึงอนาคต
ถ้าหากว่าคุณพึงพอใจตนเองในสภาวะปัจจุบันทั้งวิถีชีวิตและวิถีจิตในการดำรง
ชีวิตประจำวัน
ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตตัวเองคุณก็ไม่จำเป็นที่จะต้องข้อความนี้
เช่นเดียวกัน เพราะ คุณ คือ
หนึ่งในผู้ทำงานแห่งแสงสว่างโดยธรรมชาติแล้วนั้นเอง
......... ผู้ทำงานแห่งแสงสว่าง......
ถ้าคุณ คือ คนนึงที่สนใจเรื่องลี้ลับ พลังจิต
พลังชีวิตในห้วงจักรวาลอันไกลโพ้น เรื่องราวแห่งเวทย์มนตรา
คาถาและการข้ามภพข้ามชาติ
ไปถึงมิติต่างๆที่อยู่นอกเหนือความคิดมนุษย์อย่างพวกเราอยู่กันในทุกวันนี้
จะสามารถหยั่งรู้ได้ละก็คุณก็คงจะเคยได้ยินคำว่า Lightworker หรือ
ผู้ทำงานแห่งแสงสว่าง มาก่อนไม่มากก็น้อย
แต่ถ้าคุณไม่เคยรู้จักคำนี้มาก่อนให้ลองตั้งจิตอธิษฐานถามตัวเองว่า
“Lightworker เกี่ยวอะไรกับคุณ”
ถ้าหากแปลตรงตัว Light แปลว่า แสงสว่าง ส่วน Worker แปลว่า คนงาน
เมื่อรวมสองคำรวมกันจะอ่านได้ว่า Lightworker ผู้ทำงานแห่งแสงสว่าง
ตามความเชื่อของชาวตะวันตกในตำราต่างๆ
ได้เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลกลุ่มนี้ออกมาในแนวมนุษย์พิเศษเกิดมามี
พรสวรรค์ต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ศิลปิน นักร้อง นักประพันธ์ นักดนตรี
ผู้สอนศาสนา นักพลังจิตฯลฯ
ผลงานของพวกเขาสร้างขึ้นเพื่อที่จะช่วยยกระดับจิตวิญญาณของมนุษยชาติให้เข้า
ใจตัวเองและบางคนก็ได้กลายไปเป็นผู้บรรลุสัจธรรมแห่งชีวิต
เพื่อกลับไปเติมเต็มหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์ในฐานะคุรุ หรือ
ผู้ที่มีหน้าที่สอนผู้คนที่ยังหลงในโลกแห่งวัตถุนิยม หน้าที่ของพวกเขา คือ
ช่วยผู้ที่กำลังหลงทางกลับมายอมรับตัวเองในแบบที่เขาเป็น
จนสุดท้ายสามารถพาจิตวิญญาณเหล่านั้นกลับมาค้นพบเส้นทางที่เป็นของเขาอย่าง
แท้จริงในที่สุด
Light หรือ แสงสว่าง มีความหมายมากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็น
แสงสว่างจากพระอาทิตย์ หรือ แสงสว่างจากพระจันทร์ ในความเชื่อของชาวยุโรป
เชื่อว่าทั้งพระอาทิตย์และพระจันทร์ คือ พระเจ้า พระอาทิตย์ คือ
พระเจ้าเพศชายดูแลโลกในยามกลางวัน และ พระจันทร์ คือ
พระเจ้าเพศหญิงผู้ซึ่งทำดูแลโลกในเวลากลางคืน เพราะฉะนั้น แสงสว่าง
จึงเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณที่ศักดิ์สิทธิ์ที่อาศัยอยู่ในร่างกายของสิ่งมี
ชีวิต หรือที่เรารู้จักกันในชื่อที่เรียกว่า ออร่า (Aura)
จะเห็นได้จากภาพวาดตามผนังโบสถ์ หรือ คัมภีร์ศาสนาต่างๆ พระเยซูคริสต์ และ
เหล่าเทพฮินดูที่มีแสงสว่างรอบพระเศียร หรือ
แสงจากพระฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้า นั้น คือ ตัวอย่างของ Lightworker
ที่มนุษย์รู้จักกันเป็นอย่างดี
มนุษย์จะมีออร่าในการบ่งบอกสัญลักษณ์เเห่งชีวิตของเเต่ละคน สีสันเเต่ละสี
หมายถึงจิตใจภายใน เเต่สีที่เป็นตัวเเทนของความดี คือ ทุกสีรวมกัน หรือ
พระฉัพพรณรังสี ถ้าจิตใจเราเป็นเช่นใด เเสงในตัวเรานั้นก็จะเป็นเช่นนั้น
Lightworker คือ
มนุษย์พิเศษกลุ่มนึงที่แตกต่างจากมนุษย์ที่อยู่ในสังคมปัจจุบันโดยสิ้นเชิง
ไม่ว่าจะเป็นวิถีการใช้ชีวิตและวิถีการคิดเกี่ยวกับสังคมโลก เพราะ
พวกเขาเหล่านั้นใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ต่างๆมากมาย
เชื่อสัญชาตญาณและศรัทธาที่มีต่อตนเองมากกว่าที่จะเชื่อฟังและทำตามคำสอนตาม
ตำราของใคร
คำบอกเล่าสืบต่อกันมาจากผู้อื่นเป็นเพียงความงมงายที่พวกเขาปฏิเสธที่จะทำ
ตาม ขุมทรัพย์แห่งปัญญาและความรอบรู้ในสิ่งที่พวกเขาต้องรับทราบของ
Lightworker นั้น
พวกเขาได้มาจากจินตนาการและเสียงภายในจากหัวใจตนเองแต่เพียงผู้เดียว หรือ
จะเรียกว่า ลางสังหรณ์ สัมผัสที่หก ญาณทิพย์ ก็ว่าได้
เสียงดังกล่าวสามารถมาได้ในหลายรูปแบบ อาจจะผ่านทางหูเหมือนคนพูดใกล้ๆ หรือ
พวกเขาอาจจะรู้สึกเหมือนกับหุ่นเชิดและไม่สามารถบังคับร่างกายได้เหมือนมี
บางสิ่งบางอย่างควบคุมให้ต้องทำในสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน
รวมไปถึงการได้อ่านข้อความ หรือ สัญลักษณ์ต่างๆรอบๆตัว
ที่มีลักษณะเหมือนกับการชี้นำ บอกเล่า หรือ ออกคำสั่งให้ทำตาม (God Sign)
จะเรียกว่า โชคชะตา หรือ พรหมลิขิตกำหนดให้เราต้องรับรู้ และ
ทำตามข้อมูลต่างๆเหล่านั้นลงไปด้วยความบังเอิญก็อาจจะเป็นได้ แต่ใคร คือ
ผู้กำหนดโชคชะตาเหล่านั้นให้กับเรา? พระเจ้า หรือ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลจักรวาล
ตามที่พวกเราเคยเรียนรู้กันมาในอดีตอย่างนั้นใช่ไหม?
โดย
เฉพาะในประเทศไทย ถือว่ามี Lightworker อยู่จำนวนมาก เพราะ
ผู้คนมีความศรัทธาต่อศาสนาจำนวนนับไม่ถ้วน
และแต่ละศาสนาได้เปิดการเรียนการสอนและหาทางหลุดพ้นให้กับจิตวิญญาณสำหรับ
ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ไปถึงการชี้แนะชีวิตหลังความตาย
ไม่ว่าจะเป็นศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ศาสนาฮินดู หรือ ลัทธิต่างๆ
ที่สอนเกี่ยวกับ พลังจิต พลังจักรวาล เปิดจักระ การฝึกกำลังภายใน ชี่กง
รวมไปถึง โยคะ
ล้วนแล้วเป็นศาสตร์ที่สามารถช่วยทำให้มนุษย์สามารถสื่อสารกับโลกแห่งจิต
วิญญาณภายในได้อย่างง่ายดายอัตโนมัติโดยหลายๆคนไม่รู้ตัว
ว่าตัวเองได้สื่อสารกับโลกแห่งวิญญาณแล้ว เช่น
ผ่านทางความฝันในเวลาที่นอนหลับ
แท้จริงแล้วการจูนเข้ากับมิติอื่นเป็นเรื่องที่ใครก็ทำได้ง่ายๆ
โดยเฉพาะเด็กๆที่สื่อสารกับโลกแห่งวิญญาณ เพราะ จิตที่ไร้เดียงสา
จิตใจที่บริสุทธิ์ ไม่มีความคิด หรือ
ความรู้ที่สร้างเกราะป้องกันความรู้เหนือธรรมชาติอยู่ในสมอง
ซึ่งแตกต่างจากผู้ใหญ่ที่มีความรู้มากจึงทำให้เป็นปัญหาในการสื่อสาร
เหมือนกับมีกำแพงปิดกั้นเพราะ คำว่า อคตินั้นเอง
ถ้าเราอยากรู้เรื่องจิตวิญญาณ
เราต้องใช้จินตนาการเป็นจุดเริ่มต้นเหมือนการโทรศัพท์เข้าไปหาคนที่เราต้อง
การคุยด้วย
ถ้าอีกฝ่ายคิดมากก็เหมือนกับโทรศัพท์ที่สายไม่ว่างโทรไปเท่าไรก็ไม่มีวันที่
จะได้รับสัญญาณ
เราจำเป็นที่จะต้องล้างให้สมองเราสะอาดที่สุดก่อนที่จะเริ่มต้นในการเปิด
รับข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มิติแห่งจิตวิญญาณ ยูเอฟโอ มนุษย์ต่างดาว
จะเกิดขึ้นเมื่อบุคคลผู้นั้นทำสมาธิที่สามารถเข้าถึงสภาวะที่จิตใจสงบนิ่ง
มากพอ บุคคลผู้ที่ไร้ซึ่งอคติ หรือ กรอบความคิดที่ปิดกั้นตามศรัทธาดั่งเดิม
การสื่อสารที่ผ่านเข้ามาจะทำให้พวกเขาได้เห็น ได้ยิน และได้รับรู้
สิ่งต่างๆมากมาย แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะ
มนุษย์น้อยคนที่จะสามารถแยกความคิด และ จินตนาการออกจากกัน
ในขณะที่ความคิด คือ
สิ่งที่เกิดจากการที่มนุษย์นำสิ่งที่จดจำและเรียนรู้มาจากในอดีต
นำมาวิเคราะห์หาเหตุผลเพื่อให้ได้ผลสรุปที่ดีที่สุดออกมาในอนาคต
โดยมีบรรทัดฐานจากสังคมโลกเป็นผู้กำหนดตามมาตรฐาน จินตนาการ คือ
อิสรภาพในการสร้างวิมานในอากาศโดยปล่อยให้หัวใจเป็นผู้ชี้ทางที่ตัวเราต้อง
การจริงๆ ผลสรุปที่ดีที่สุด คือ ความสุขที่ได้ทำในตอนนี้เท่านั้น
พูดภาษาง่ายๆก็ คือ ความคิดเกิดจากพื้นฐานข้อมูลจากสังคม จินตนาการ
เกิดจากพื้นฐานข้อมูลจากตัวเรา
Lightworker คือ
ผู้ที่รู้และเข้าใจข้อมูลเกี่ยวกับสังคมโลกและบางคนอาจจะเป็นบุคลากรระดับชน
ชั้นหัวกะทิระดับประเทศ หรือ ระดับชาติ มีอาชีพที่มั่นคง รายได้มหาศาล
มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ
แต่เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาต้องทำงานในฐานะผู้ทำงานแห่งแสงสว่าง
พวกเขาเหล่านั้น
เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์มีเหตุต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขามีโดยเฉพาะ
สิ่งที่สำคัญต่อพวกเขามากที่สุด เพราะนั้น คือ
บทเรียนแรกที่พวกเขาต้องฝึกจิตใจในการมีชีวิตอยู่อย่างผู้ที่สูญเสียและ
เริ่มต้นเรียนรู้การทำงานตามหน้าที่ตามความรู้สึกจากหัวใจเพื่อให้ได้
ผลลัพธ์บางอย่างที่ดีที่สุดต่อจิตวิญญาณของตนเองและผู้อื่นที่อยู่รอบตัวของ
พวกเขานั้นเอง
คุณอาจจะคิดว่าคุณ คือ จิตวิญญาณที่มีร่างกายเป็นมนุษย์
มีหนึ่งดวงจิตในหนึ่งร่างกาย เพศหญิง เพศชาย หรือไม่ก็จิตหญิงในร่างชาย
หรือ
จิตชายในร่างหญิงก็ตาม แต่ความพอใจและอิสรภาพในการเลือกที่จะเป็นของมนุษย์ใน
ยุคที่อะไรก็เกิดขึ้นได้เพราะวิวัฒนาการและเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
จนมนุษย์สามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้เพียงกล้าที่จะคิดใหม่และเริ่มต้นเดินตาม
ความ ฝัน คุณสามารถเรียนรู้ได้ทุกศาสตร์ ทั้งทางโลกและจิตวิญญาณ รวมไปถึงพลังจิต และ เวทมนต์ก็ได้รับการเผยแพร่หลายแขนง อยู่ที่ความสนใจ
และความพยายามของมนุษย์แต่ละคนจะเลือกเดินไปในเส้นทางไหน
จริงๆแล้วพวกเราไม่ได้มีเพศทางจิตวิญญาณ มีแต่ร่างกายในมิติที่สาม
(โลกมนุษย์) มิติแห่งกายเท่านั้นที่แบ่งลักษณะเพศออกจากกันอย่างสิ้นเชิง
รวมไปถึงลักษณะของสายพันธ์สิ่งมีชีวิตต่างๆบนโลกใบนี้ แต่ในฐานะ
“จิตวิญญาณ” ทุกสิ่งในจักรวาลนี้ คือ สิ่งเดียวกันและมาจากที่เดียวกัน
พวกเราทุกดวงจิตวิญญาณจะเดินทางไปในแต่ละมิติเพื่อเรียนรู้รูปการใช้แบบ
ชีวิตในลักษณะที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับความพอใจของคุณเองว่าจะหยุดเมื่อไร
โดยที่คุณ คือ ผู้เลือกเส้นทางชีวิตให้กับตนเอง
หลายครั้งในหลายภพหลายชาติ
คุณเลือกที่จะปฏิเสธการรู้จักตัวตนที่แท้จริงของคุณ
รวมไปถึงการลบความทรงจำในอดีตเกี่ยวกับต้นกำเนิดแห่งจักรวาล
โดยที่คุณจะเลือกที่จะไม่ทำ ไม่เรียนรู้ในสิ่งที่คุณเคยรู้และผ่านมาแล้ว
คุณเบื่อหน่ายในสิ่งที่ซ้ำซากจำเจ
คุณเลือกที่จะทอดทิ้งความสมบูรณ์แบบเพื่อที่จะได้เรียนรู้ความขาดแคลน
และเมื่อคุณขาดแคลนคุณก็จะพยายามขวนขวายให้ได้มาซึ่งความสมบูรณ์แบบเพราะ
คุณไม่เคยพอใจกับปัจจุบัน ณ จุดใดเลยนั้นเอง สิ่งต่างๆเหล่านี้ คือ
ลักษณะพื้นฐานดั้งเดิมของคุณในฐานะจิตวิญญาณ
ก่อนที่จะเลือกที่จะมาเกิดในรูปแบบมนุษย์โลกในปัจจุบัน
พวกเราสามารถที่จะทำอะไรก็ได้ในโลกแห่งจิตวิญญาณ อย่างไร้ขอบเขต เพราะ
จิตวิญญาณดำรงชีวิตด้วยจินตนาการและไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ในจักรวาล
แต่เมื่อถึงเวลาในการเติบโตขึ้นอีกระดับ
ที่พวกเราจะต้องเรียนรู้วิถีชีวิตแบบมีขอบเขต
การลงมาเกิดบนโลกมนุษย์จึงเป็นความจำเป็นที่พวกเราไม่อาจที่จะเลี่ยงได้
ไม่ใช่แค่มนุษย์เท่านั้นที่มีการเติบโตทางความคิดและกายภาพเพราะจิตวิญญาณใน
สากลจักรวาลก็เติบโตตลอดเวลาเช่นเดียวกัน เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ความลับเพียงแต่น้อยคนที่จะรู้
และถึงจะรู้ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าเชื่ออยู่ดี
เพราะพื้นฐานของนักวิทยาศาสตร์ชาวมนุษย์โลกต้องการข้อพิสูจน์ที่สามารถมอง
เห็นได้ด้วยการสัมผัสในรูปแบบกายภาพเพื่อยืนยันความชัดเจนในกรรมสิทธิ์และ
ความถูกต้องตามตรรกศาสตร์เพื่อสิทธิของความเป็นเจ้าของนั้นเอง แต่สำหรับจิตวิญญาณแล้วสิ่งที่สำคัญในการเรียนรู้จักตนเอง คือ
อิสรภาพโดยไร้เหตุผลรับรอง พวกเราใช้หัวใจในการรับสัญญาณไม่ว่าจะถูก หรือ
ผิด ขอให้เชื่อสัญชาตญาณแล้วคุณจะไม่ผิดหวังกับผลลัพธ์ใดๆทั้งสิ้น
ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการที่คุณจำตัวตนในอดีตไม่ได้ทำให้คุณไม่สามารถรู้
เรื่องต่างๆของคุณเอง จึงทำให้เกิดปัญหาต่างๆขึ้นมา
เพราะความไม่รู้จึงทำให้คุณและมนุษย์ส่วนมากไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงไม่
รู้จักพอใจในสิ่งที่มี ไม่มีความสุขกับสิ่งที่เป็น
แสวงหาในมายาและความลุ่มหลงชั่วครั้งคราว
เมื่อไม่พอจึงทำให้เกิดการแย่งชิง แบ่งแยก และไม่มีความสุขกับชีวิตที่ตนเอง
ถึงแม้จะมีหนังสือเกี่ยวกับการตื่นรู้ การหลุดพ้นจากความทุกข์
ทาง แก้ปัญหาชีวิตและค้นหาทางออกในรูปแบบต่างๆมากมายแทบจะล้นโลกแต่หนังสือ เหล่านั้นก็ยังคงไม่สามารถตอบสนองความต้องการคำตอบของมนุษย์ได้ทุกคนอยู่ดี
เพราะ พวกคุณยังไม่ได้รับคำตอบว่า คุณ คือ ใคร? และ
คุณเกิดมาบนโลกใบนี้เพื่ออะไร?
ถ้าคุณอยากที่จะรู้จริงๆและพร้อมแล้วละก็สิ่งแรกที่คุณต้องเตรียมตัวก่อน
อ่านต่อไป คือ ทำจิตให้สงบนิ่ง มองเข้าไปในกระจกที่คุณหาได้
มองเข้าไปในดวงตาของคุณ
และบอกกับตัวเองว่าคุณพร้อมแล้วที่จะรู้ความจริงเกี่ยวกับจิตวิญญาณของตัว
เองและไม่ว่าคุณคือใครก็ตาม
คุณยินดีที่จะทำความรู้จักในทุกแง่มุมต่างๆไม่ว่าจะดีหรือเลวร้ายแค่ไหน
คุณจะไม่หันหลังและทอดทิ้งตัวตนของคุณเอง
การที่คุณเปิดใจยอมรับตัวเองได้มากเท่าไร คุณ คือ
ผู้ที่จะได้รับผลประโยชน์ทางจิตวิญญาณมากที่สุด
เพราะฉะนั้นถ้าคุณพร้อมแล้วละก็ขอให้คุณใช้จินตนาการที่คุณมีทั้งหมดเดินทาง
ไปด้วยกัน เพราะ ประตูทางเข้าเดียวที่คุณจะรู้จัก จิตวิญญาณของคุณ คือ
ความเพ้อฝันและจินตนาการอย่างไร้ขอบเขตเท่านั้นที่จะทำให้
ตัวตนที่แท้จริงของคุณออกมาหาคุณในที่สุด
...........การสูญเสียเพื่อการเริ่มต้นงานที่ยิ่งใหญ่........
การสูญเสียเพื่อการเริ่มต้นงานที่ยิ่งใหญ่ Lightworker คือ
ผู้ที่ทำหน้าที่สอนคุณให้เข้าใจในตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์แต่ละคน
ในสภาวะของการมีร่างกายในรูปแบบมนุษย์ พวกเขาจะช่วยแนะแนวทางออกสำหรับชีวิตของคุณ
ให้คำแนะนำคำสอนให้รู้จักกับจิตวิญญาณที่แอบซ่อนอยู่ภายใน
ถึงแม้คุณจะคิดว่าตนเองนั้นรู้ทุกอย่างแต่ก็คงไม่เถียงว่าบางครั้งความคิดใน
สมองและจิตใจยังมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครสามารถแก้สมการที่ค้างคาใจให้
กับคุณได้ ซึ่งบางปัญหาก็ทำให้หลงทางอยู่เป็นประจำจนเป็นสาเหตุแห่งความสับสนต่างๆทั้ง
ทางกายและจิตในปัจจุบัน
หากคุณรู้สึกอย่างนั้นและไม่รู้ว่าอนาคตของคุณจะลงเอยอย่างไร แสดงว่า
ยังไม่ใช่เวลาที่คุณจะต้องรู้
และก็ไม่จำเป็นต้องขวนขวายในการค้นหาอะไรทั้งสิ้นเพราะเมื่อถึงเวลาที่กำหนด
คุณจะรู้ทุกอย่างทีละขั้นตอน สิ่งที่ผู้ทำงานแห่งแสงสว่างเกือบทุกคนบนโลกใบนี้ควรทราบและจำเป็นต้องเตรี
ยมตัวเตรียมใจเอาไว้ คือ
ก่อนที่จะเข้ารับงานตามหน้าที่เมื่อครบกำหนดเวลาที่จะต้องกลับไปเรียนรู้ใน
จุดเริ่มต้นของตัวตนที่แท้จริงและเริ่มต้นเข้าไปรู้จักกับสายงานของชาวแสง
สว่าง
บทเรียนสุดท้ายในสถานะคุณคนเดิมในโลกใบเก่า คือ การทำลายตัวตนเดิม
ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในสิ่งต่างๆที่คุณถือกรรมสิทธิ์และมี
อยู่ในครอบครอง
สิ่งที่คุณเกาะกุมยึดเหนี่ยวและทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้สูญเสียไปจะถูกทำลาย
เพียงชั่วพริบตา ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเงินทองของมีค่าทางวัตถุ
สิ่งที่มีค่าทางจิตใจ และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ
สุขภาพร่างกายจากที่เคยสมบูรณ์กลับอ่อนแอล้มป่วยอย่างไม่น่าเชื่อ
การสูญเสียที่เกิดขึ้นจะอยู่ในระดับที่ทำให้คุณไม่อยากเป็นตัวคุณอีกต่อไป
ทำให้คุณรู้สึกไม่มีค่าควรที่อยู่ในจุดที่คุณเป็น
ถึงขั้นต้องการฆ่าตัวตายเพื่อหายไปจากโลกใบนี้เลยก็ว่าได้ หรือคำอธิบายง่ายๆ คือ หัวใจสลาย
จุดประสงค์ในการสูญเสียครั้งสำคัญในชีวิตของคุณครั้งนี้
ได้ถูกสร้างสถานการณ์ขึ้นเพื่อลบล้างคุณคนเก่า
ทั้งความคิดความเชื่อมั่นและสังคมที่คุณเคยอยู่
ด้วยการบีบบังคับทุกทางทำให้คุณต้องออกไปจากวิถีชีวิตเกือบทั้งหมด
เพื่อปูทางให้จิตวิญญาณใหม่ หรือ
ตัวตนที่แท้จริงของคุณเข้ามาแทนที่ในไม่ช้า นิยามของคำว่า “ความสมบูรณ์”
สำหรับคุณแล้วก็คงไม่ปฏิเสธว่าคุณยังรู้สึกขาดไม่มากก็น้อยในหลายๆสิ่งที่
คุณปรารถนาและมันก็เป็นสิ่งเดียวกันกับที่มนุษย์ส่วนมากคิด
พวกเขาทั้งหลายจึงพยายามครอบครองสาธารณะวัตถุและเอาชนะจิตใจผู้คนให้ได้มาก
ที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้
เพราะปมด้อยในจิตใจลึกๆที่ยังไม่ถูกเติมเต็มในสิ่งที่พวกเขาพยายามตามหามา
ทั้งชีวิต
บางคนอาจจะคิดว่าคนนั้นคนนี้ได้ครอบครองสิ่งที่ดีที่สุดแต่สุดท้ายมันก็ยัง
ไม่ใช่อยู่ดี เพราะสิ่งที่ดีที่สุด คือ
“สิ่งที่พวกเขามีอยู่แล้วเพียงแต่หาไม่เจอ”
ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ใครสามารถซื้อหาเก็บไว้เป็นกรรมสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวไม่
ผู้ที่ถูกเลือกเท่านั้นที่จะได้พบกับปรากฏการณ์มหัศจรรย์ราวกับปาฏิหาริย์ใน
นิยายตามกำหนดเวลาที่ได้ถูกวางไว้แล้วนั้นเอง
ถึงแม้ว่าปัญหาต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ตัวคุณยังมองไม่เห็นทางออก
แต่
จริงๆแล้วมันเป็นแค่ จุดเริ่มต้นของการทำงานที่ยิ่งใหญ่
การที่คุณต้องเข้ามาอยู่ในประสบการณ์อันเลวร้ายที่สุดในชีวิตครั้งนี้เพราะ
จิตวิญญาณภายในของคุณเป็นผู้สั่งการ
เพราะตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ข้อมูลต่างๆที่ถูกเก็บไว้เป็นความลับตลอดชีวิตของ
คุณจะถูกเปิดเผยออกมา โดยมีพวกเรากลับมาทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ตามกำหนดการ
เพราะฉะนั้นขอให้คุณวางใจในปัญหาทั้งหมดและปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่
ควรจะเป็นโดยไร้ความกังวลใจ
เพราะอีกไม่นานคุณจะเข้าใจทุกอย่างและมีชีวิตใหม่ที่น่าพึงพอใจมากกว่าเดิม
การได้พบกับสิ่งที่คุณรอคอยและคำตอบที่ค้นหามาทั้งชีวิต
จงมองดูการแตกสลายที่กำลังเกิดขึ้นในครั้งนี้เหมือนกับตัวจิ๊กซอว์ชิ้นเล็กๆ
หยุดความสงสัยไว้ชั่วขณะ
ไม่ว่าจิ๊กซอว์ชิ้นต่างๆจะกระจัดกระจายอยู่ที่ไหนขอให้อดทนรอการผจญภัยข้างหน้าที่กำลังจะเกิดขึ้น
บรรจงต่อภาพนี้ทีละชิ้นไปเรื่อยๆด้วยความพยายามแล้วคุณจะรู้เองว่าภาพที่คุณ
ต่อเสร็จจะออกมาเป็นรูปอะไร เมื่อถึงเวลาเราก็ต้องทำทุกอย่างตามกำหนด
ตื่นตามกำหนด โง่ตามกำหนด เรียนรู้ตามกำหนด พัฒนาตามกำหนด ทำงานตามกำหนด
เเละ ตกผลึกตามกำหนด
คน
ทั่วไปจะเข้าใจว่ามนุษย์หนึ่งคนมีร่างกายหนึ่งร่างกายรวมกับจิตวิญญาณหนึ่ง
ดวง
แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆจะทำให้บนโลกมนุษย์มีจิตวิญญาณมากกว่าเจ็ดพันล้าน
ดวงแต่ความเป็นจริงแล้วจิตวิญญาณไม่มีเครื่องวัดและแบ่งแยกจำนวนและลำดับ
ชั้นของจิตแต่ละดวง เมื่อมนุษย์หรือสัตว์หมดสิ้นอายุขัย
ดวงจิตจะกลับคืนสู่มิติแห่งจิตวิญญาณกลับไปรวมเป็นหนึ่งเดียวกับทุกสรรพสิ่ง
ในจักรวาลอีกครั้ง หน้าที่ของจิตวิญญาณ มีภาระหน้าที่มากกว่าการลอยไปลอยมา
ชีวิตหลังความตายสำหรับมนุษย์บางคนจะยังคงเกิดการเปลี่ยนภพชาติและใช้กรรม
ตามศาสนาของตนเองเมื่อเราไม่สามารถค้นพบจิตเดิมของเรา
ถ้ามนุษย์สามารถพบกับจิตเดิมได้เมื่อไรพวกเขาก็สามารถที่จะหลุดพ้นวัฏสงสาร
ด้วยกุญแจดอกสำคัญที่จิตเดิมเป็นผู้ครอบครองไว้อยู่
จิตเดิมอยู่ในทุกสรรพสิ่งรอบๆตัวเราและภายในตัวเรา
พวกเขารู้ทุกอย่างเหมือนกันและไม่ต่างกัน
เหมือนกับหยดน้ำจากมหาสมุทรไม่ว่าแม่น้ำสายนั้นจะอยู่ที่ไหนพวกเขาจะอยู่
ด้วยกันเสมอ
เป็นหนึ่งเดียวกันไม่ต่างจากจิตวิญญาณเดิมที่อาศัยอยู่ในจักรวาล
ดังนั้นทุกความคิดของมนุษย์ หรือ
สิ่งต่างๆบนโลกใบนี้สามารถสื่อถึงกันได้เพราะเหตุนี้นั่นเอง
ผู้ที่ส่งคลื่นความคิดใดออกไปมักจะพบเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะ
เป็นไปได้ด้วยความบังเอิญอยู่เสมอ เพราะความคิด คือ
ต้นกำเนิดจิตวิญญาณในหลายรูปแบบ ทั้งดีและชั่ว
ความคิดสามารถที่จะสร้างได้หมดโดยมีอารมณ์เป็นชนวนและจินตนาการเป็นไม้ขีด
ไฟ
เมื่อใดก็ตามที่คิด จิตวิญญาณเทียมจะเกิดขึ้นทันที ยกตัวอย่างง่ายๆ
อย่างเช่น วิวัฒนาการและการศึกษาของมนุษย์บนโลกได้ถูกสอนให้รู้จักกับคำว่า
แตกต่าง พิเศษ แปลกแยก ไม่มีอะไรที่เหมือนกัน เนื่องจาก ความรู้
ประสบการณ์และหลักความเชื่อที่ถูกปลูกฝังทางจิตวิญญาณตั้งแต่เด็กจนถึง
ปัจจุบัน
ความคิดของมนุษย์เจ็ดพันล้านคนจึงเข้าไปคุกคามแทนที่จิตบริสุทธิ์แท้ดังเดิม
ที่เป็นหนึ่งเดียวกันกับจักรวาลโดยไม่รู้ตัว
ทำให้จิตวิญญาณเดิมที่รู้ทุกอย่างในจักรวาล
วิญญาณต้นธาตุที่แท้จริงต้องกลายเป็นใบ้ เพราะถูกจิตวิญญาณเทียมเทคโอเว่อร์
จิตวิญญาณเทียม คือ ความคิดที่ถูกปลูกฝังให้เชื่อตามกระแสโลก
ค่านิยมที่ถูกโปรแกรมด้วยการโฆษณาตามสื่อสิ่งพิมพ์และโลกไซเบอร์
ความสวยงามที่ถูกกำหนดตายตัวมาตรฐานจากคนบางกลุ่ม ความรู้ที่ดีที่สุด คือ
การทำคะแนนในห้องสอบได้สูงที่สุด เชื่อฟังและทำตามคนที่เก่งที่สุด
ปริญญาและเงินเป็น สิ่งที่ยกระดับและคุณค่าความเป็นคน
จิตวิญญาณเทียมจะมีความโดดเด่นมากแต่และตราบใดที่คุณยังคงชื่นชม
ชื่นชอบและมีความสุขกับตัวเอง ณ ปัจจุบัน ของจิตวิญญาณเทียม
จิตเดิมของคุณก็จะไม่แสดงตัวออกมาจนวันที่คุณต้องการความช่วยเหลืออย่างแสน
สาหัส เมื่อเข้าใจเหตุผลของการสูญเสียและปัญหาต่างๆ
ที่เกิดขึ้นครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตเพราะถึงเวลาทำลายจิตวิญญาณเทียม
การเคลียร์พื้นที่ให้จิตวิญญาณใหม่ที่กำลังจะเข้ามาแทนที่ในอนาคตเป็นสิ่ง
ที่คุณจะได้เรียนรู้ต่อไป เรียกว่า ทฤษฎีค้นหาจิตเดิมด้วยวิธี
“พูดให้จิตคิด บอกจิตให้ฟัง”
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ชอบบทความนี้จังค่ะ
ตอบลบขออนุญาตนำบทความ อ่านบันทึกเป็นคลิป ลงเฟสบุค หรือยูทูป ได้ไหมคะ